กริยา 3 ช่อง Yell (Yelled, Yelled): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Yell ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "ตะโกน, ตะคอก, ส่งเสียงดัง" เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Yell เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Yell เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Yell:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Yell

ช่องที่ 2 (Past Simple): Yelled

ช่องที่ 3 (Past Participle): Yelled

สรุปรูปแบบการผัน Yell:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Yell, Yelled, Yelled

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า ตะโกน, ตะคอก, ส่งเสียงดัง แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ความหมายเพิ่มเติมของ Yell:

นอกจาก ตะโกน, ตะคอก, ส่งเสียงดัง แล้ว Yell ยังมีความหมายอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

(v) ตวาด

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Yell

ลองดูวิธีใช้ yell, yelled, yelled ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Yell (ช่อง 1)

Kids yell when they are excited. (เด็ก ๆ ร้องตะโกนเมื่อพวกเขารู้สึกตื่นเต้น)
Don't yell in the library! (อย่าตะโกนในห้องสมุด!)

ตัวอย่าง Yelled (ช่อง 2)

The coach yelled at the team during practice. (โค้ชตะโกนใส่ทีมระหว่างการฝึกซ้อม)
She yelled for help when she saw the spider. (เธอตะโกนขอความช่วยเหลือเมื่อเห็นแมงมุม)

ตัวอย่าง Yelled (ช่อง 3)

He has yelled so loud that everyone heard him. (เขาตะโกนดังมากจนทุกคนได้ยิน)
The fans have yelled throughout the entire game. (แฟน ๆ ได้ตะโกนตลอดทั้งเกม)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Yell

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!