กริยา 3 ช่อง Weird (Weirded, Weirded): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Weird ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "แปลก, ประหลาด, ผิดปกติ" เป็นคำที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Weird เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Weird เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Weird:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Weird

ช่องที่ 2 (Past Simple): Weirded

ช่องที่ 3 (Past Participle): Weirded

สรุปรูปแบบการผัน Weird:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Weird, Weirded, Weirded

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า แปลก, ประหลาด, ผิดปกติ แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Weird

ลองดูวิธีใช้ weird, weirded, weirded ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Weird (ช่อง 1)

His behavior weirds me out. (พฤติกรรมของเขาทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ)
This situation really weirds people. (สถานการณ์นี้ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาด)

ตัวอย่าง Weirded (ช่อง 2)

She weirded out her friends with her strange story. (เธอทำให้เพื่อน ๆ รู้สึกแปลกด้วยเรื่องเล่าประหลาดของเธอ)
The movie totally weirded me out last night. (หนังเรื่องนั้นทำให้ฉันรู้สึกประหลาดเมื่อคืน)

ตัวอย่าง Weirded (ช่อง 3)

I have weirded everyone out with my costume. (ฉันทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกด้วยชุดของฉัน)
The situation has weirded them out completely. (สถานการณ์ทำให้พวกเขารู้สึกแปลกอย่างสิ้นเชิง)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Weird

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!