กริยา 3 ช่อง Put On (Put On, Put On): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Put On ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "สวม, ใส่, แต่งตัว" เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Put On เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Put On เป็นคำกริยาอปกติ (Irregular Verb) ซึ่งหมายความว่ารูปช่องที่ 2 และ 3 ไม่ได้เกิดจากการเติม -ed เหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Put On:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Put On

ช่องที่ 2 (Past Simple): Put On

ช่องที่ 3 (Past Participle): Put On

สรุปรูปแบบการผัน Put On:

แบบ Irregular Verb (ไม่ปกติ): Put On, Put On, Put On

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า สวม, ใส่, แต่งตัว แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ความหมายเพิ่มเติมของ Put On:

นอกจาก สวม, ใส่, แต่งตัว แล้ว Put On ยังมีความหมายอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

(v) ครอง

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Put On

ลองดูวิธีใช้ put on, put on, put on ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Put On (ช่อง 1)

I put on my jacket before going outside. (ฉันสวมเสื้อแจ๊กเกตก่อนออกไปข้างนอก)
She likes to put on makeup every morning. (เธอชอบแต่งหน้าทุกเช้า)

ตัวอย่าง Put On (ช่อง 2)

He put on his shoes quickly. (เขาสวมรองเท้าอย่างรวดเร็ว)
They put on their winter coats before leaving. (พวกเขาสวมโค้ทกันหนาวก่อนออกเดินทาง)

ตัวอย่าง Put On (ช่อง 3)

I have put on weight recently. (ฉันน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วนี้)
She had put on her best dress for the party. (เธอได้สวมชุดที่ดีที่สุดสำหรับงานปาร์ตี้)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Put On

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!