กริยา 3 ช่อง Owe (Owed, Owed): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Owe ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "เป็นหนี้, ค้างชำระ, เป็นหนี้บุญคุณ" เป็นคำที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Owe เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Owe เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Owe:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Owe

ช่องที่ 2 (Past Simple): Owed

ช่องที่ 3 (Past Participle): Owed

สรุปรูปแบบการผัน Owe:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Owe, Owed, Owed

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า เป็นหนี้, ค้างชำระ, เป็นหนี้บุญคุณ แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ความหมายเพิ่มเติมของ Owe:

นอกจาก เป็นหนี้, ค้างชำระ, เป็นหนี้บุญคุณ แล้ว Owe ยังมีความหมายอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

(v) ค้าง
(v) ติด
(v) ติดค้าง
(v) ติดหนี้
(v) เป็นหนี้
(vt) เป็นหนี้, ติดเงิน
(vt) เป็นหนี้บุญคุณ
(v) เป็นหนี้เป็นสิน

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Owe

ลองดูวิธีใช้ owe, owed, owed ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Owe (ช่อง 1)

I owe him $50. (ฉันติดหนี้เขา 50 ดอลลาร์)
They owe taxes to the government. (พวกเขาติดหนี้ภาษีให้รัฐบาล)

ตัวอย่าง Owed (ช่อง 2)

She owed money to the bank. (เธอติดหนี้ธนาคาร)
He owed a favor to his friend. (เขาเป็นหนี้บุญคุณเพื่อน)

ตัวอย่าง Owed (ช่อง 3)

I have owed him money for months. (ฉันติดหนี้เขามาหลายเดือนแล้ว)
The company owed its success to hard work. (บริษัทประสบความสำเร็จเนื่องจากความขยัน)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Owe

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!