กริยา 3 ช่อง Muss (Mussed, Mussed): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Muss ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "ต้อง, จำเป็น, มีหน้าที่" เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Muss เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Muss เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Muss:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Muss

ช่องที่ 2 (Past Simple): Mussed

ช่องที่ 3 (Past Participle): Mussed

สรุปรูปแบบการผัน Muss:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Muss, Mussed, Mussed

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า ต้อง, จำเป็น, มีหน้าที่ แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ความหมายเพิ่มเติมของ Muss:

นอกจาก ต้อง, จำเป็น, มีหน้าที่ แล้ว Muss ยังมีความหมายอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

(vt) ทำให้สับสนวุ่นวาย, ทำให้ยุ่งเหยิง

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Muss

ลองดูวิธีใช้ muss, mussed, mussed ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Muss (ช่อง 1)

Kids can easily muss up their hair. (เด็ก ๆ สามารถทำให้ผมยุ่งได้ง่าย)
Don't muss my clean shirt! (อย่าทำเสื้อสะอาดของฉันให้ยับ!)

ตัวอย่าง Mussed (ช่อง 2)

He mussed his hair after the workout. (เขาทำผมยุ่งหลังออกกำลังกาย)
The wind mussed her perfectly styled hair. (ลมทำให้ผมที่เธอจัดทรงไว้อย่างสวยงามยุ่ง)

ตัวอย่าง Mussed (ช่อง 3)

His clothes have been mussed from playing. (เสื้อผ้าของเขาถูกทำให้ยับจากการเล่น)
The bedsheets were completely mussed. (ผ้าปูที่นอนถูกทำให้ยับยู่ทั้งหมด)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Muss

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!