กริยา 3 ช่อง Jump On (Jumped On, Jumped On): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Jump On ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "กระโดดใส่, โจมตี, กระโดดขึ้น" เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Jump On เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Jump On เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Jump On:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Jump On

ช่องที่ 2 (Past Simple): Jumped On

ช่องที่ 3 (Past Participle): Jumped On

สรุปรูปแบบการผัน Jump On:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Jump On, Jumped On, Jumped On

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า กระโดดใส่, โจมตี, กระโดดขึ้น แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Jump On

ลองดูวิธีใช้ jump on, jumped on, jumped on ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Jump On (ช่อง 1)

Kids jump on the trampoline every weekend. (เด็ก ๆ กระโดดบนแทรมโพลีนทุกสุดสัปดาห์)
The dog likes to jump on the bed. (สุนัขชอบกระโดดขึ้นเตียง)

ตัวอย่าง Jumped On (ช่อง 2)

He jumped on the bus just in time. (เขากระโดดขึ้นรถบัสทันเวลา)
They jumped on the opportunity quickly. (พวกเขากระโดดเข้าหาโอกาสอย่างรวดเร็ว)

ตัวอย่าง Jumped On (ช่อง 3)

The athlete has jumped on many platforms. (นักกีฬาได้กระโดดขึ้นแพลตฟอร์มหลายแห่งแล้ว)
She had jumped on the stage before the performance. (เธอได้กระโดดขึ้นเวทีก่อนการแสดงแล้ว)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Jump On

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!