กริยา 3 ช่อง Is (Was, Been): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Is ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "เป็น, อยู่, มี" เป็นคำที่ใช้บ่อยมากในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Is เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Is เป็นคำกริยาอปกติ (Irregular Verb) ซึ่งหมายความว่ารูปช่องที่ 2 และ 3 ไม่ได้เกิดจากการเติม -ed เหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Is:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Is (อีส)

ช่องที่ 2 (Past Simple): Was (วอส)

ช่องที่ 3 (Past Participle): Been (บีน)

สรุปรูปแบบการผัน Is:

แบบ Irregular Verb (ไม่ปกติ): Is, Was, Been

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า เป็น, อยู่, มี แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

  • ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
  • ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
  • ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Is

ลองดูวิธีใช้ is, was, been ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Is (ช่อง 1)

  • He is a good student. (เขาเป็นนักเรียนที่ดี)
  • The book is on the table. (หนังสืออยู่บนโต๊ะ)

ตัวอย่าง Was (ช่อง 2)

  • She was happy yesterday. (เธอมีความสุขเมื่อวาน)
  • It was raining last night. (ฝนตกเมื่อคืนที่แล้ว)

ตัวอย่าง Been (ช่อง 3)

  • I have been to Paris. (ฉันเคยไปปารีสมาแล้ว)
  • He has been studying all day. (เขาอ่านหนังสือมาทั้งวัน)

 หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

 ภาพประกอบ Is

  • การผัน กริยา 3 ช่อง Is - Is, Was, Been แปลว่า (เป็น, อยู่, มี
)

 กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!
0%
0%
0%
0%
0%
0%