กริยา 3 ช่อง Flame (Flamed, Flamed): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Flame ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "เผา, ลุกโชน, ลุกไหม้" เป็นคำที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Flame เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Flame เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Flame:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Flame

ช่องที่ 2 (Past Simple): Flamed

ช่องที่ 3 (Past Participle): Flamed

สรุปรูปแบบการผัน Flame:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Flame, Flamed, Flamed

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า เผา, ลุกโชน, ลุกไหม้ แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ความหมายเพิ่มเติมของ Flame:

นอกจาก เผา, ลุกโชน, ลุกไหม้ แล้ว Flame ยังมีความหมายอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

(vi) ลุกไหม้, ลุกเป็นไฟ, ลุกไหม้
(vi) แดงขึ้นเพราะความโกรธ (ใบหน้า)

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Flame

ลองดูวิธีใช้ flame, flamed, flamed ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Flame (ช่อง 1)

The fire will flame up quickly. (ไฟจะลุกโชนอย่างรวดเร็ว)
The grill flames brightly in the evening. (เตาย่างลุกโชนสว่างในตอนเย็น)

ตัวอย่าง Flamed (ช่อง 2)

The campfire flamed intensely last night. (ไฟค่ายลุกโชนอย่างแรงเมื่อคืน)
His cheeks flamed with embarrassment. (แก้มของเขาแดงระเรื่อเพราะความอับอาย)

ตัวอย่าง Flamed (ช่อง 3)

The building has flamed out completely. (อาคารถูกไฟเผาจนหมดสิ้น)
The passion flamed between them. (ความรู้สึกเร่าร้อนปะทุระหว่างพวกเขา)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Flame

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!