กริยา 3 ช่อง Err (Erred, Erred): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Err ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "สงสัย, เดาผิด, ทำผิดพลาด" เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Err เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Err เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Err:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Err

ช่องที่ 2 (Past Simple): Erred

ช่องที่ 3 (Past Participle): Erred

สรุปรูปแบบการผัน Err:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Err, Erred, Erred

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า สงสัย, เดาผิด, ทำผิดพลาด แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ความหมายเพิ่มเติมของ Err:

นอกจาก สงสัย, เดาผิด, ทำผิดพลาด แล้ว Err ยังมีความหมายอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

(vi) ทำผิด, ทำผิดพลาด
(v) พลั้งพลาด
(v) พลาดพลั้ง

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Err

ลองดูวิธีใช้ err, erred, erred ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Err (ช่อง 1)

Humans err sometimes in their judgment. (มนุษย์ย่อมผิดพลาดในการตัดสินใจบ้าง)
To err is human, to forgive is divine. (การผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์)

ตัวอย่าง Erred (ช่อง 2)

The accountant erred in his calculations. (นักบัญชีผิดพลาดในการคำนวณ)
She erred on the side of caution. (เธอระมัดระวังอย่างเต็มที่)

ตัวอย่าง Erred (ช่อง 3)

He has erred in his understanding of the situation. (เขาเข้าใจสถานการณ์ผิดพลาด)
The lawyer has erred in his legal argument. (ทนายความผิดพลาดในการให้เหตุผลทางกฎหมาย)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Err

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!