กริยา 3 ช่อง Ear (Eared, Eared): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Ear ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "ฟัง, ได้ยิน, สดับ" เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Ear เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Ear เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Ear:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Ear

ช่องที่ 2 (Past Simple): Eared

ช่องที่ 3 (Past Participle): Eared

สรุปรูปแบบการผัน Ear:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Ear, Eared, Eared

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า ฟัง, ได้ยิน, สดับ แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Ear

หมายเหตุ: "Ear" ไม่ใช่กริยาที่ใช้กันทั่วไป

ตัวอย่าง Ear (ช่อง 1)

I can clearly ear the music. (ฉันได้ยินเสียงเพลงอย่างชัดเจน)
She ears the conversation nearby. (เธอได้ยินการสนทนาใกล้ ๆ)

ตัวอย่าง Eared (ช่อง 2)

He eared the warning. (เขาได้ยินคำเตือน)
They eared the strange noise. (พวกเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ)

ตัวอย่าง Eared (ช่อง 3)

Have you eared the news? (คุณได้ยินข่าวหรือยัง?)
The message has been eared. (ข้อความได้ถูกได้ยินแล้ว)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Ear

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!?