กริยา 3 ช่อง Distinguish (Distinguished, Distinguished): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Distinguish ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "แยกแยะ, แตกต่าง, จำแนก" เป็นคำที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Distinguish เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Distinguish เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Distinguish:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Distinguish

ช่องที่ 2 (Past Simple): Distinguished

ช่องที่ 3 (Past Participle): Distinguished

สรุปรูปแบบการผัน Distinguish:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Distinguish, Distinguished, Distinguished

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า แยกแยะ, แตกต่าง, จำแนก แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ความหมายเพิ่มเติมของ Distinguish:

นอกจาก แยกแยะ, แตกต่าง, จำแนก แล้ว Distinguish ยังมีความหมายอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

(vi) จำแนกความแตกต่าง, แยกแยะ, แบ่งแยก
(vt) ทำให้เห็นความแตกต่าง
(v) แยกแยะ

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Distinguish

ลองดูวิธีใช้ distinguish, distinguished, distinguished ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Distinguish (ช่อง 1)

Can you distinguish between these two colors? (คุณสามารถแยกแยะสีเหล่านี้ได้หรือไม่?)
Students distinguish important facts in the textbook. (นักเรียนแยกแยะข้อเท็จจริงที่สำคัญในหนังสือเรียน)

ตัวอย่าง Distinguished (ช่อง 2)

He distinguished himself in the military service. (เขาสร้างชื่อเสียงในการรับใช้ชาติ)
The scientist distinguished several unique characteristics. (นักวิทยาศาสตร์แยกแยะคุณลักษณะที่แตกต่างหลายประการ)

ตัวอย่าง Distinguished (ช่อง 3)

She has distinguished herself as a brilliant researcher. (เธอได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในฐานะนักวิจัยที่มีความสามารถ)
The expert has distinguished the key factors in the study. (ผู้เชี่ยวชาญได้แยกแยะปัจจัยสำคัญในการศึกษา)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Distinguish

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!