กริยา 3 ช่อง Cost (Cost, Cost): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Cost ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "มีราคา, เสียค่าใช้จ่าย, มีต้นทุน" เป็นคำที่ใช้บ่อยมากในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Cost เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Cost เป็นคำกริยาอปกติ (Irregular Verb) ซึ่งหมายความว่ารูปช่องที่ 2 และ 3 ไม่ได้เกิดจากการเติม -ed เหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Cost:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Cost (ค๊อต)

ช่องที่ 2 (Past Simple): Cost (ค๊อต)

ช่องที่ 3 (Past Participle): Cost (ค๊อต)

สรุปรูปแบบการผัน Cost:

แบบ Irregular Verb (ไม่ปกติ): Cost, Cost, Cost

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า มีราคา, เสียค่าใช้จ่าย, มีต้นทุน แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ความหมายเพิ่มเติมของ Cost:

นอกจาก มีราคา, เสียค่าใช้จ่าย, มีต้นทุน แล้ว Cost ยังมีความหมายอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

(vt) คำนวณเงินที่ต้องการ
(vt) ทำให้สิ้นเปลือง, ทำให้สูญเสีย
(vi) มีมูลค่า, มีราคาเท่ากับ
(vi) มีราคาแพง

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Cost

ลองดูวิธีใช้ cost, cost, cost ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Cost (ช่อง 1)

This book costs 500 baht. (หนังสือเล่มนี้ราคา 500 บาท)
How much cost the ticket? (ตั๋วราคาเท่าไหร่?)

ตัวอย่าง Cost (ช่อง 2)

The car cost 1 million baht. (รถคันนี้ราคา 1 ล้านบาท)
It cost me a lot of money. (มันทำให้ฉันเสียเงินมาก)

ตัวอย่าง Cost (ช่อง 3)

The project has cost millions. (โครงการนี้เสียเงินไปหลายล้าน)
How much has it cost? (มันเสียเงินไปเท่าไหร่?)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Cost

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!