กริยา 3 ช่อง Chime (Chimed, Chimed): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Chime เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Chime เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Chime เป็นคำกริยาปกติ (Regular Verb) เพราะแค่เติม -ed เมื่อเป็นอดีตเหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Chime:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Chime

ช่องที่ 2 (Past Simple): Chimed

ช่องที่ 3 (Past Participle): Chimed

สรุปรูปแบบการผัน Chime:

แบบ Regular Verb (ปกติ): Chime, Chimed, Chimed

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

  • ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
  • ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
  • ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Chime

ลองดูวิธีใช้ chime, chimed, chimed ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Chime (ช่อง 1)

  • The doorbell chimes every time someone arrives. (กริ่งประตูส่งเสียงดังทุกครั้งที่มีใครมา)
  • Church bells chime at noon. (ระฆังโบสถ์ส่งเสียงตอนเที่ยง)

ตัวอย่าง Chimed (ช่อง 2)

  • The clock chimed midnight. (นาฬิกาส่งเสียงตีสิบสอง)
  • She chimed in with her opinion during the meeting. (เธอแทรกความคิดเห็นระหว่างการประชุม)

ตัวอย่าง Chimed (ช่อง 3)

  • The bell has chimed for the start of class. (ระฆังได้ส่งเสียงเริ่มชั้นเรียนแล้ว)
  • The wind chimes have chimed softly all evening. (ระฆังลมได้ส่งเสียงเบา ๆ ตลอดทั้งค่ำ)

 หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

 ภาพประกอบ Chime

  • การผัน กริยา 3 ช่อง Chime - Chime, Chimed, Chimed แปลว่า ()

 กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!?
0%
0%
0%
0%
0%
0%