กริยา 3 ช่อง Be On (Were On, Been On): ความหมายและวิธีใช้

คำกริยา Be On ในภาษาอังกฤษมีความหมายหลักว่า "อยู่บน, เป็น, ดำเนินอยู่" เป็นคำที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน การทราบรูปกริยาช่องต่าง ๆ ของ Be On เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือเหตุการณ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Be On เป็นคำกริยาอปกติ (Irregular Verb) ซึ่งหมายความว่ารูปช่องที่ 2 และ 3 ไม่ได้เกิดจากการเติม -ed เหมือนกริยาทั่วไป.

รูปแบบกริยา 3 ช่องของ Be On:

ช่องที่ 1 (Base Form / Infinitive): Be On

ช่องที่ 2 (Past Simple): Were On

ช่องที่ 3 (Past Participle): Been On

สรุปรูปแบบการผัน Be On:

แบบ Irregular Verb (ไม่ปกติ): Be On, Were On, Been On

วิธีการใช้งานประโยค

ทั้งสามคำกริยานี้ล้วนมีความหมายว่า อยู่บน, เป็น, ดำเนินอยู่ แต่มีหลักการใช้ต่างกัน ดังนี้

ช่อง 1 เอาไว้เล่า เรื่องราวเท็จจริงทั่วไป
ช่อง 2 เอาไว้เล่าเรื่องราวในอดีต
ช่อง 3 เอาไว้เล่าเรื่องราวที่ทำจบไปแล้ว ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต

ตัวอย่างประโยค กริยา 3 ช่อง Be On

ลองดูวิธีใช้ be on, were on, been on ในประโยคง่าย ๆ:

ตัวอย่าง Be On (ช่อง 1)

I want to be on time for the meeting. (ฉันอยากมาทันเวลาประชุม)
They will be on the next flight. (พวกเขาจะอยู่บนเที่ยวบัดถัดไป)

ตัวอย่าง Were On (ช่อง 2)

We were on the bus to Bangkok. (พวกเราอยู่บนรถบัสไปกรุงเทพฯ)
The students were on a school trip last week. (นักเรียนอยู่ในทริปโรงเรียนสัปดาห์ที่แล้ว)

ตัวอย่าง Been On (ช่อง 3)

Have you been on a cruise before? (คุณเคยขึ้นเรือสำราญมาก่อนหรือยัง?)
She had been on the waiting list for hours. (เธอได้อยู่ในรายการรอคอยมาหลายชั่วโมงแล้ว)

หมายเหตุ

กริยา 3 ช่อง คือ การแบ่งคำกริยาในภาษาอังกฤษออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกถึง เหตุการณ์ ในแต่ละช่วงเวลา แยกเป็น กริยาช่องที่ 1 คือ ปัจจุบัน กริยาช่องที่ 2 คือ อดีต และกริยาช่องที่ 3 คือ คำกริยาที่ใช้ใน Perfect tense ทุกชนิด และ Passive Voice ด้วย

ภาพประกอบ Be On

กริยา 3 ช่องที่คล้ายกัน

นึกถึงกริยา 3 ช่อง คำไหนใช้บ่อยจนติดปากที่สุด? มาโหวตกัน!