
กริยาช่อง 2: หลักการเติม ed (Regular Verbs) และ Irregular Verbs ที่ต้องรู้!
สวัสดีครับนักเรียนทุกคน วันนี้ผมจะมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กริยาช่อง 2 (Verb 2) ที่เราได้คุยกันไปบ้างแล้วนะครับ กริยาช่อง 2 มีความสำคัญมากในการบอกเล่าเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งคำกริยาเหล่านี้แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ Regular Verbs (กริยาปกติ) ที่ส่วนใหญ่ลงท้ายด้วย -ed และ Irregular Verbs (กริยาอปกติ) ที่มีการเปลี่ยนรูปไปเลย หรือคงรูปเดิมครับ
ในบทความนี้ ผมจะเน้นไปที่ หลักการเติม -ed ให้กับ Regular Verbs และรวบรวมคำศัพท์ Irregular Verbs ที่สำคัญ ๆ และนักเรียนมัธยมพบบ่อยมาให้ทบทวนกันครับ การเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้นักเรียนใช้ภาษาอังกฤษได้ถูกต้องและมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะในการเขียนและพูดถึงเรื่องราวในอดีตครับ
ทบทวน: กริยาช่อง 2 คืออะไร?
กริยาช่อง 2 (Verb 2) หรือ Past Simple Form คือ รูปของคำกริยาที่ใช้เพื่ออธิบายการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีต โดยไม่เกี่ยวข้องกับปัจจุบันครับ โดยทั่วไปเราจะใช้กริยาช่อง 2 ในโครงสร้างประโยค Past Simple Tense เช่น "She visited her grandmother yesterday." (เธอไปเยี่ยมคุณย่าของเธอเมื่อวานนี้)
Regular Verbs (กริยาปกติ) และหลักการเติม -ed
Regular Verbs คือ คำกริยาที่เมื่อเปลี่ยนเป็นรูปอดีต (ช่อง 2) และรูป Past Participle (ช่อง 3) จะใช้วิธีการเติม -ed หรือ -d เข้าไปที่ท้ายคำกริยาช่องที่ 1 ครับ ซึ่งมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้ครับ
หลักการเติม -ed ท้ายคำกริยา (สำหรับ Regular Verbs)
- กริยาทั่วไป สามารถเติม –ed ได้เลย:
walk (เดิน) → walked
cook (ทำอาหาร) → cooked
listen (ฟัง) → listened
ask (ถาม) → asked
- กริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้เติม d ได้เลย:
love (รัก) → loved
move (เคลื่อนย้าย) → moved
hope (หวัง) → hoped
live (อาศัยอยู่) → lived
- กริยาที่ลงท้ายด้วย y:
- ถ้าหน้า y เป็นพยัญชนะ: ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม -ed
study (เรียน) → studied
cry (ร้องไห้) → cried
try (พยายาม) → tried
marry (แต่งงาน) → married
- ข้อยกเว้น: ถ้าหน้า y เป็นสระ (a, e, i, o, u): ให้เติม -ed ได้เลย ไม่ต้องเปลี่ยน y เป็น i
play (เล่น) → played
stay (พัก, อาศัย) → stayed
enjoy (สนุก) → enjoyed
obey (เชื่อฟัง) → obeyed
- ถ้าหน้า y เป็นพยัญชนะ: ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม -ed
- กริยาที่มีพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียว: ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้ายอีก 1 ตัว แล้วจึงเติม -ed (ยกเว้นคำที่ลงท้ายด้วย w, x, y เช่น snow - snowed, fix - fixed, play - played)
plan (วางแผน) → planned
stop (หยุด) → stopped
beg (ขอร้อง) → begged
shop (ซื้อของ) → shopped
- กริยาที่มี 2 พยางค์ และลงเสียงหนัก (stress) ที่พยางค์หลังสุด และพยางค์หลังนั้นมีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียว: ให้เพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้ายอีก 1 ตัว แล้วจึงเติม -ed
concur (เห็นด้วย) → concurred
occur (เกิดขึ้น) → occurred
prefer (ชอบมากกว่า) → preferred
permit (อนุญาต) → permitted
ข้อควรระวัง: ถ้าเสียงหนักไม่ได้อยู่ที่พยางค์หลัง ไม่ต้องเพิ่มพยัญชนะตัวสุดท้าย เช่น visit → visited, open → opened
ตัวอย่าง Regular Verbs ที่ใช้บ่อย ๆ (ช่อง 1, 2, 3 และคำแปล)
ช่อง 1 (Infinitive) | ช่อง 2 (Past Simple) | ช่อง 3 (Past Participle) | คำแปล |
---|---|---|---|
answer (อานเซอะ) | answered (อานเซอะด) | answered (อานเซอะด) | ตอบ |
arrive (อะไรฟ์) | arrived (อะไรฟด) | arrived (อะไรฟด) | มาถึง |
call (คอล) | called (คอลด) | called (คอลด) | เรียก, โทรหา |
clean (คลีน) | cleaned (คลีนด) | cleaned (คลีนด) | ทำความสะอาด |
help (เฮลพ) | helped (เฮลพท) | helped (เฮลพท) | ช่วยเหลือ |
look (ลุค) | looked (ลุคท) | looked (ลุคท) | มอง |
need (นีด) | needed (นีดเด็ด) | needed (นีดเด็ด) | ต้องการ |
start (สตาร์ท) | started (สตาร์ทเท็ด) | started (สตาร์ทเท็ด) | เริ่มต้น |
talk (ทอล์ค) | talked (ทอล์คท) | talked (ทอล์คท) | พูดคุย |
want (วอนท์) | wanted (วอนท์เท็ด) | wanted (วอนท์เท็ด) | ต้องการ |
watch (วอทช์) | watched (วอทช์ท) | watched (วอทช์ท) | ดู (ทีวี, ภาพยนตร์) |
work (เวิร์ค) | worked (เวิร์คท) | worked (เวิร์คท) | ทำงาน |
Irregular Verbs (กริยาอปกติ) ที่นักเรียนมัธยมควรรู้จัก
Irregular Verbs คือ คำกริยาที่เมื่อเปลี่ยนเป็นรูปอดีต (ช่อง 2) และรูป Past Participle (ช่อง 3) จะไม่มีการเติม -ed เหมือน Regular Verbs ครับ แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปคำไปเลย หรือบางคำก็คงรูปเดิมทั้ง 3 ช่อง ซึ่งนักเรียนจำเป็นต้องอาศัยการจดจำและฝึกใช้ให้คุ้นเคยครับ เพราะไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวเหมือน Regular Verbs ครับ
ผมได้รวบรวมคำศัพท์ Irregular Verbs ที่สำคัญและใช้บ่อย ๆ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมมาให้ดังนี้ครับ
ตารางคำศัพท์ Irregular Verbs ที่ใช้บ่อย
ช่อง 1 (Infinitive) | ช่อง 2 (Past Simple) | ช่อง 3 (Past Participle) | คำแปล |
---|---|---|---|
be (is, am, are) | was, were | been | เป็น, อยู่, คือ |
become (บิคัม) | became (บิเคม) | become (บิคัม) | กลายเป็น |
begin (บิกิน) | began (บิแกน) | begun (บิกัน) | เริ่มต้น |
break (เบรค) | broke (โบรค) | broken (โบรเคิน) | แตก, หัก |
bring (บริง) | brought (บรอท) | brought (บรอท) | นำมา |
buy (บาย) | bought (บอท) | bought (บอท) | ซื้อ |
catch (แคช) | caught (คอท) | caught (คอท) | จับ |
choose (ชูส) | chose (โชส) | chosen (โชเซิน) | เลือก |
come (คัม) | came (เคม) | come (คัม) | มา |
cost (คอสท) | cost (คอสท) | cost (คอสท) | มีราคา |
cut (คัท) | cut (คัท) | cut (คัท) | ตัด |
do (ดู) | did (ดิด) | done (ดัน) | ทำ |
draw (ดรอ) | drew (ดรู) | drawn (ดรอน) | วาด, ดึง |
drink (ดริงค์) | drank (แรงค์) | drunk (ดรังค์) | ดื่ม |
drive (ไดรฟ์) | drove (โดรฟ) | driven (ดริฟเวิน) | ขับรถ |
eat (อีท) | ate (เอท) | eaten (อีทเทิน) | กิน |
fall (ฟอล) | fell (เฟล) | fallen (ฟอลเลิน) | ตก |
feel (ฟีล) | felt (เฟลท) | felt (เฟลท) | รู้สึก |
find (ไฟนด์) | found (ฟาวนด์) | found (ฟาวนด์) | พบ |
fly (ฟลาย) | flew (ฟลู) | flown (โฟลน) | บิน |
forget (ฟอร์เกท) | forgot (ฟอร์กอท) | forgotten (ฟอร์กอทเทิน) | ลืม |
get (เกท) | got (กอท) | got/gotten (กอท/กอทเทิน) | ได้รับ |
give (กิฟ) | gave (เกฟ) | given (กิฟเวิน) | ให้ |
go (โก) | went (เวนท์) | gone (กอน) | ไป |
grow (โกร) | grew (กรู) | grown (โกรน) | เติบโต, ปลูก |
have (แฮฟ) | had (แฮด) | had (แฮด) | มี |
hear (เฮียร์) | heard (เฮิร์ด) | heard (เฮิร์ด) | ได้ยิน |
hit (ฮิท) | hit (ฮิท) | hit (ฮิท) | ตี, ชน |
hold (โฮลด์) | held (เฮลด์) | held (เฮลด์) | ถือ |
keep (คีพ) | kept (เคพท์) | kept (เคพท์) | เก็บ, รักษา |
know (โน) | knew (นิว) | known (โนน) | รู้, รู้จัก |
leave (ลีฟ) | left (เลฟท์) | left (เลฟท์) | ออกจาก, ทิ้งไว้ |
let (เลท) | let (เลท) | let (เลท) | อนุญาต |
lose (ลูส) | lost (ลอสท์) | lost (ลอสท์) | ทำหาย, แพ้ |
make (เมค) | made (เมด) | made (เมด) | ทำ, สร้าง |
meet (มีท) | met (เมท) | met (เมท) | พบ |
pay (เพ) | paid (เพด) | paid (เพด) | จ่าย |
put (พุท) | put (พุท) | put (พุท) | วาง |
read (รีด) | read (เรด) | read (เรด) | อ่าน |
ride (ไรด์) | rode (โรด) | ridden (ริดเดน) | ขี่ |
run (รัน) | ran (แรน) | run (รัน) | วิ่ง |
say (เซ) | said (เซด) | said (เซด) | พูด |
see (ซี) | saw (ซอ) | seen (ซีน) | เห็น |
sell (เซล) | sold (โซลด) | sold (โซลด) | ขาย |
send (เซนด์) | sent (เซนท์) | sent (เซนท์) | ส่ง |
sing (ซิง) | sang (แซง) | sung (ซัง) | ร้องเพลง |
sit (ซิท) | sat (แซท) | sat (แซท) | นั่ง |
sleep (สลีพ) | slept (สเลพท์) | slept (สเลพท์) | นอนหลับ |
speak (สปีค) | spoke (สโปค) | spoken (สโปคเคิน) | พูด |
spend (สเพนด์) | spent (สเพนท์) | spent (สเพนท์) | ใช้ (เงิน, เวลา) |
stand (สแตนด์) | stood (สทูด) | stood (สทูด) | ยืน |
swim (สวิม) | swam (สแวม) | swum (สวัม) | ว่ายน้ำ |
take (เทค) | took (ทุค) | taken (เทคเคิน) | เอาไป, พาไป |
teach (ทีช) | taught (ทอท) | taught (ทอท) | สอน |
tell (เทล) | told (โทลด) | told (โทลด) | บอก |
think (ธิงค์) | thought (ธอท) | thought (ธอท) | คิด |
understand (อันเดอร์สแตนด์) | understood (อันเดอร์สทูด) | understood (อันเดอร์สทูด) | เข้าใจ |
wake (เวค) | woke (โวค) | woken (โวคเคิน) | ตื่นนอน |
wear (แวร์) | wore (วอร์) | worn (วอร์น) | สวมใส่ |
win (วิน) | won (วอน) | won (วอน) | ชนะ |
write (ไรท์) | wrote (โรท) | written (ริทเทิน) | เขียน |
การเรียนรู้เรื่องกริยาช่อง 2 ทั้งแบบ Regular และ Irregular Verbs เป็นสิ่งสำคัญมากนะครับ ผมแนะนำให้นักเรียนหมั่นทบทวน ฝึกใช้ในประโยคบ่อย ๆ ทั้งในการพูดและการเขียน จะทำให้จำได้แม่นยำและนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องครับ